ร้อยเรื่องสั้นไม่จำกัดหลอน โดย ตรัยโศก ณ ริมน่าน - นิยาย ร้อยเรื่องสั้นไม่จำกัดหลอน โดย ตรัยโศก ณ ริมน่าน : Dek-D.com - Writer
×

    ร้อยเรื่องสั้นไม่จำกัดหลอน โดย ตรัยโศก ณ ริมน่าน

    ผู้เข้าชมรวม

    111

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    111

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.ย. 67 / 13:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ของไม่ดี

    เรื่องนี้  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับลุงแถวบ้านผม  แกไปโดนของไม่ดีเข้าตัวโดยไม่ตั้งใจ  ก็เกี่ยวกับคุณไสย  สิ่งเร้นลับ ผีสางนางพรายนั่นล่ะครับ เพียงแต่ที่แกโดนเนี่ย ไม่ใช่แบบที่ผมเคยได้ยินมา  ไม่ใช่ลมเพลมพัด  ไม่ใช่การกระทำโดยมุ่งร้ายจากคนอื่น  แต่เป็นตัวลุงแกเองครับที่เข้าหามัน แต่อย่างที่บแกไว้ข้างต้นนั่นล่ะครับว่าลุงแกไม่ได้ตั้งใจ  แกแค่โลภเท่านั้นเอง  จะเรียกว่าไม่รู้ก็ไม่ผิดนัก  เอาเป็นว่า คราวซวย  ทุกอย่างมันไม่เป็นไปได้สวยอย่างที่คิดก็แล้วกันครับ  นั่นล่ะ คำที่เหมาะที่สุดสำหรับประสบการณ์  ที่ลุงคนนี้เขาคงจำไปจนตาย ว่าของบางอย่างแม้มันจะมีค่า แต่ความจริงแล้วอาจเป็นของไม่ดีอย่างที่คิดก็เป็นได้

    ลุงคนนี้ชื่อลุงแดงครับ  แกมีอาชีพหาปลาผสมกับหาของเก่าของมีค่าตามคลองน้ำสายหลักเอาไปขาย   อย่างหลังนี่อาชีพเสริมครับ  นานทีปีหนแกจะทำ  อย่างว่าล่ะครับหาปลากับของมีค่า  ปลามันได้ง่ายกว่า  ลงข่ายลงอวนไม่ก็ดำยิงยังไงก็เจอ  แต่ไอ้ของมีค่าเนี่ย  ถ้าไม่ใช่ว่าต้องดำลงไปในที่ ๆ ลึกจริง ๆ หรือมีข้อมูลว่าเคยมีเรือล่ม เคยมีคนเอาของมาซ่อนหรือประวัติแต่โบราณ ก็ยากนักล่ะครับที่จะมี 

    ลุงแดงว่าบางครั้ง    ดำปลาอยู่เห็นสะท้อนแสงวาวแวววิบ ๆ คิดว่าของโบราณ  แต่พอดำไปดูใกล้ ๆ กลับเป็นโกศทองเหลืองใส่กระดูกก็มี   บางคนเขาไม่เน้นลอยอังคารแบบโปรยเถ้าครับ  ปล่อยลงไปทั้งโกศทีเดียวเลย  หยุ่นปุ๊บก็ตุ๋มลงใกล้ ๆ นั่นล่ะครับไม่ไปไหน  เอาล่ะครับ  เรื่อยเปื่อยมาเยอะแล้ว  เข้าสู่เรื่องของลุงแดงที่เจอกันเลยดีกว่า

    ลุงแดง  ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่นะครับ  แต่แกเลิกอาชีพหากินทางน้ำอย่างเด็ดขาด  แกบอกว่าวันนั้นก็ไปลงข่ายลงอวนหาปลาตามปกติอย่างที่เคยทำนั่นล่ะครับ  เพียงแต่คราวนี้สถานที่เป็นหนองน้ำใหญ่  คลองน้ำเก่ากลางนาที่มีมาตั้งแต่สมัยพ่อของพ่อและของพ่ออีกทีโน่น   และไม่เคยไม่ขุดลอกเลยสักครั้ง  สถานที่แบบนั้นใครจะคิดละครับว่านอกจากกุ้งหอยปูปลาอันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติแล้ว  มันจะมีของอย่างอื่นอยู่ด้วย

    วันนั้นไม่ใช่ลุงแดงคนเดียวนะครับที่ไป  ยังมีผู้เชี่ยวชาญสายอาชีพเดียวกันคนอื่น ๆ ด้วย  ต่างก็หมายตำแหน่งของใครของมัน  ใครถนัดแหก็เลือกจุดหว่านเอาที่มันโปร่ง ๆ โล่ง ๆ  ใครถนัดข่ายดักปลาก็เลือกขึงขนาบกับฝั่งคลองไล่ไปตามความยาวของข่าย  สุดตรงไหนก็ตรงนั้น  ที่เหลือใครจะวางต่อก็สุดแท้แต่ปรารถนา  ลุงแดงแกถนัดทั้งสองอย่างครับ  ไม่สิ ความจริงแกก็ได้หมดนั่นล่ะ เรียกว่าเชี่ยวเลยทีเดียว

    หลังจากปักหลักผูกเชือกหัวข่ายแล้วค่อย ๆ  ลุยน้ำเลาะริมฝั่งคลองไปจนสุดแล้ว  แกก็จัดการหว่านแหต่อ  ประมาณว่ามันต้องได้ทั้งสองทางนั่นล่ะครับ  ทีนี้จุดที่ลุงแกเลือกเนี่ย  มันค่อนข้างรกและห่างจากคนอื่นเสียหน่อย  แถวนั้นเขาไม่ค่อยลงกัน  ไม่ใช่กลัวผีสางอะไรนะครับ  แต่อย่างที่บอกคือมันรก 

    หากจะลงแหลงข่ายก็ต้องเสียเวลาเคลียร์เศษไม้นานทีเดียว   แต่นั่นล่ะครับ  ตรงไหนที่คนอื่นไม่ค่อยไป  ลุงแดงแกชอบนักแล  เพราะไอ้เศษไม้ทั้งน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ  นอกจากจะเป็นที่หลบซ่อนของปลาแล้ว  มันยังมีพวกหอยพวกปูด้วย  เรียกว่าแค่เวลาที่แกเสียไปกับการเก็บโข่  บ้านผมเรียกแบบนั้นครับ  แกก็ได้ทั้งหอย  ปู บางครั้งก็ปลาแบบจับเอาง่าย ๆ เป็นกะละมังแล้ว

    และตอนนั้นนั่นล่ะครับที่แกบังเอิบงมแล้วพบกับวัตถุบางอย่าง  แกว่าสัมผัสแรกมันกึ่งสากกึ่งลื่น  ประมานว่าไม้แช่น้ำนานนั่นล่ะครับ  แต่ทีนี้คือมันดิ้นได้ซ้ำยังใหญ่จนต้องใช้มือโอบ  ที่สำคัญมันมน กลม  แวบแรกแกคิดว่าเต่า  ได้เต่าแน่ ๆ ตัวใหญ่เสียด้วย  ก็ดีใจล่ะครับเพราะมีลูกค้าเฉพาะอยู่ 

    แกว่ามันดิ้นหนีมืออยู่สองสามครั้ง และแต่ละครั้งนี้แล่นเอามวลน้ำดันขึ้นมาให้เห็นตะกอน  มันก็ตามง่ายล่ะแบบนี้  แกลอยคอบ้าง งมบ้าง  ควานหาไปเรื่อย ๆ ไอ้เต่าตัวนั้นมันก็หนีไปเรื่อย ๆ กระทั่งออกไปถึงกลางคลองนั่นล่ะแกจึงจับมันได้ แล้วจึงรู้ว่ามันไม่ใช่เต่าครับ แต่เป็นไห ไม่ก็โอ่งใบขนาดย่อม หากใครนึกดภาพไม่ออกก็โอ่งน้ำรับแขกตามบ้านทมี่มีกระบวยทำจากกะลามะพร้าวนั่นล่ะครับ  ขนาดเท่านั้นเลย

    แวบแรกลุงแดงว่าแกสะดุ้งจนเผลอกลืนน้ำไปหลายอึก  ปล่อยมันหลุดจากการจับการอุ้ม  ขนหนาวลุกวาบเลยครับ  เพราะตามไล่จับคิดว่าเป็นเต่าไหงเป็นตุ่มไปได้  ต่อเมื่อนึกเอะใจ  เอ๊ะ...หรือมันจะมีของดีอยู่ในนั้น  พวกพระโบราณไม่ก็สมบัติ  แต่คงมีอาคมกำกับไว้กระมังจึงดิ้นหนีมือได้ 

    คิดได้ดังนั้นแกก็ยกมือวันทาหลับตากล่าวกับอากาศธาตุเลยครับว่า  ขอเถอะ หากมีบุญจะได้จับต้องหรือเป็นเจ้าของสมบัติตุ่มนี้   คือยังไม่เห็นด้วยซ้ำว่าใช่รึเปล่าแต่คิดไปแล้วว่าไม่น่าผิด  จากนั้นก็ลอยคองมหาอีกครั้ง  คราวนี้แผล็บเดียวก็เจอเลย  มันจมนิ่งอยู่ตรงที่ปล่อยไปนั่นล่ะ  ซ้ำยังไม่ดิ้นหนีเหมือนก่อนหน้าอีก 

    เป็นแบบนั้นเป็นผมก็คิดครับว่าเจ้าของเก่าเขาคงให้แหละ   ถึงง่ายขนาดนี้  แต่พอกึ่งอุ้มกึ่งลากมาข้างฝั่งในระดับน้ำที่พอจะมองเห็นรายละเอียดได้  แกก็เปลี่ยนใจอีกครับ   มันเป็นตุ่มจริง ๆ แต่จับไปด้วยตะไคร่เขียว  ปากถูกปิดด้วยดินครับ  ดินจริง ๆ แต่แกลืมคิดว่าทำไมมันไม่ละลายหว่า  แกเหมาเอาว่าที่คิดว่ามันดิ้นน่ะไม่ใช่  ความจริงคือมันลื่นตะไคร่เท่านั้น

    แกพินิจดูอยู่ครู่ก็ลองเอานิ้วแคะ ๆ  ดินที่ปิดปากอยู่ออกดู มันกลับเปราะร่วนกลายเป็นผงละลายน้ำโดยง่าย  แล้วก็ได้เห็นของข้างในสมใจครับ  มันมีกำไลข้อมือ  สร้อย และเครื่องประดับที่แกว่ามีลักษณะคล้ายเข็มขัดของย่า ๆ ยาย ๆ แบบที่มันกลม ๆ ร้อยต่อกันด้วยตะขอ แกร้องลั่นเลยครับ  ดีใจ  เพราะทุกอย่างมันล้วนเป็นเนื้อทองคำ  จะแท้จะปลอมตอนนั้นยังไม่คิด  คิดแค่รวยแน่แล้ว

    ลุงแดงดีใจจัดพยายามลากเอาไอ้ตุ่มใบนั้นขึ้นฝั่ง แต่แล้วจังหวะนั้นบางอย่างที่ผิดปกติก็เกิดขึ้น แกว่ามันเหมือนมีใครรั้งปากตุ่มอีกฝั่งเอาไว้  ประมาณว่าฉันไม่ให้  อย่าเอาของฉันไป  แกก็หันกลังกลับมามองแล้วก็ใจหายวาบ  เพราะมีมือรั้งอยู่จริง ๆ ครับ  แต่มีแค่มือและข้างเดียวด้วย  มือข้างนั้นผิวซีดเลยจากข้อมือขึ้นไปราว ๆ ครึ่งคืบมีรอยเหมือนถูกตัด 

    ที่สำคัญ ยังสวมเครื่องประดับและมีรอยสักอักขระเลขยันต์เอาไว้อีกด้วย  เจอเข้าแบบนั้นก็ต้องปล่อยล่ะครับ  ตุ่มตกน้ำดังตุ๋มแต่ไม่จม กลับลอยนิ่งอยู่ตรงหน้าทั้งที่เป็นคลองน้ำไหล  อีกอย่าง มือนั้นก็หายไปแล้วด้วย แกยืนมองทำใจอยู่พักหนึ่งจึงคิดว่าถ้าเขาไม่ให้จริง ๆ มันคงจมหายไปแล้ว  เมื่อครู่อาจเป็นแค่อาการตาฝาดหรือดีใจมากเกินไป

     หรือถ้าเป็นอะไรที่เร้นลับจริง ๆ ก็คงเป็นช่วงสุดท้ายของการหวงแหน  โผล่มาให้กลัวแล้วหายไป  ลองเอามือแตะ ๆ ดู  เห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ที่สุดลุงแดงจึงตัดสินใจเอามันกลับบ้านเลยครับ  กลับเลย ทิ้งแหทิ้งข่ายเอาไว้กะว่าค่อยมาเก็บทีหลัง 

    ตอนนั้นเรื่องสำคัญคือต้องเอาสมบัติเหล่านั้นไปล้างทำความสะอาด วันต่อไปค่อยเข้าตลาดใหญ่ให้ร้านทองเขาดูให้ ไม่ก็ไปร้านที่เคยเอาของเก่าไปขายเป็นประจำตีราคา  แต่ที่แน่ ๆ คือรวยแน่ ๆ แกรวยแน่แล้ว   แกคิดแบบนั้นครับ

    แกว่าตอนที่อุ้มเอาไอ้ตุ่มไอ้ไหใบนั้นโดยเอาเสื้อและผ้าขาวม้าคลุมเอาไว้มันต้องผ่านกลุ่มเพื่อนนักหาปลา  มีแต่คนถามครับว่าจะรีบกลับไปไหน  แล้วพวกนั้นใคร เดินตามกันเป็นขบวนเลย   แต่ไอ้ประโยคหลังน่ะ  แกไม่ได้ใส่ใจครับ แกว่ามาย้อนคิดตอนเล่าให้ผมฟังก็น่าด่าตัวเองนัก  โลภจนหูดับ แถมตอนนั้นยังร้อน ๆ หนาว ๆ คล้ายจะจับไข้ก็ยังไม่สำเหนียก     คิดแต่จะรวย ๆ อย่างเดียว  ดีว่าไม่ตายเอา

    กว่าจะรู้สำนึกก็เกือบสายแล้วล่ะครับ แกว่าพอกลับถึงบ้านไม่เกินบ่ายวันนั้นก็รู้เรื่องเลย  จากตอนแรกกะจะรีบจัดการล้างทำความสะอาด  แต่แกไม่ไหว อยู่ ๆ ก็เพลียอยากหลับเสียให้ได้ แกก็เลยเอาไอ้สมบัติที่ได้มาน่ะไปซุกไว้ใต้ตู้เสื้อผ้า  บอกเมียว่าจะรวยกันแล้วนะ  แล้วก็ล้างเนื้อล้างตัวเข้านอนข้าวปลาไม่กิน

    ทว่า  เพียงแกล้มตัวลงนอนเท่านั้นครับ พลันมีผู้ชายร่างใหญ่ไร้หัวมือสองข้างถูกตัดเลือดหยดแหมะ ๆ ปรี่เข้ามากระทืบอก  แล้วนะครับ  ทั้งที่ไม่มีหัวแต่กลับพูดได้  ลุงแดงได้ยินชัดเจนเลยว่าอยากตายใช่ไหม  เอาของกูมาแบบนี้อยากตายใช่ไหม  หรืออยากจะเป็นกู!? 

    แกว่าแกกลัวจัดจนตัวสั่นเลยครับ  จะยกมือไหว้ขอร้องก็ทำไม่ได้ จะดิ้นก็ไม่ได้อีก  แขนขามันหนักไปหมด  แม้แต่หัวก็ยกไม่ขึ้น ได้แต่กรอกตาพยายามมองดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดขี้แตกเยี่ยวราดตรงนั้นเลย  เพราะแขนขาของแกทั้งสองข้างมีผีตัวซีด ๆ ทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่งกดเอาไว้ 

    จะร้องให้เมียช่วยก็ไม่ได้อีก  มันมีมือครับ มือที่ไม่รู้ว่าเจ้าของอยู่ตรงไหนปิดปากเอาไว้   ไอ้ผู้ชายตัวใหญ่นั่นก็ถามอยู่ประโยคเดียว  อยากได้นักใช่ไหม?  อยากได้นักใช่ไหม?  ถามอยู่แบบนั้น  เหยียบ-อกลุงแดงอยู่แบบนั้นพักใหญ่  ก่อนจะค่อย ๆ ค้อมตัวลงมาพร้อม ๆ กับที่มือซึ่งปิดปากแกอยู่ค่อย ๆ ง้างให้อ้าออก แล้วของเหลียวซึ่งแกเข้าใจว่าเป็นเลือดแต่เน่า ๆ ก็ทะลักไหลเข้าปากแกแหมะ ๆ จะอ้วกก็ไม่ได้  จะคายก็ไม่ได้ ต้องกลืนอย่างเดียว   

    หลังจากนั้นดูเหมือนไอ้ที่แกเห็นคงพอใจแล้วจึงหายไป  แต่มันไม่ใช่เรื่องดีครับ  เพราะลุงแดงเจ็บร้าวไปทั้งตัว  เหมือนกับว่าตามเส้นเลือดหรือเนื้อหนังมีอะไรชอนไชไถไปมาสนุกสนาม  แกร้องลั่นบ้านเลยครับ เมียแกได้ยินเข้ามาดูถามว่าเป็นอะไรก็บอกไม่ได้  ลุงแดงแกว่าแกรู้ตัวทุกอย่างนะครับแต่ร่างกายบังคับไม่ได้  ปรี่เข้าจะทำร้ายเมีย  พอเมียหลบก็พุ่งชนผนังบ้าน พุ่งชนเสาบ้านไม่ก็พยายามเอามีดตัดข้อมือตัวเอง  แกคิดนะครับว่าถ้าสำเร็จ ต่อไปคงเป็นคอแน่ ๆ 

    เมียลุงแดงร้องให้คนช่วย ก็พอดีกับพวกที่ไปหาปลาด้วยกันนั่นล่ะครับตามกลับมา   เห็นอาการลุงแดงก็พาเข้าวัดตามระเบียบ  ให้หลวงพ่อท่านช่วยจัดการให้ แกว่าตอนหลวงพ่อทำพิธีแกร่ายคาถาสวนเลยครับ  ประมาณว่ามึงมีกูก็มี  ทั้งที่ลุงแดงไม่ใช่คนเล่นของอะไรเทือกนั้นเลย  ปากมันขยับไปเอง เสียงมันเปล่งออกเอง และอักขระเลขยันต์ก็แล่นอยู่ในหัวทั้งที่ไม่เคยเรียนมา 

    ดีว่าหลวงพ่อท่านเก่งพอตัว  สุดท้ายก็ช่วยเอาไว้ได้  พออะไรสักอย่างในตัวลุงแดงทานไม่ไหวแก็สำรอกเอาเลือดเน่าและหนอนออกมากองโต  นั่นยังไม่จบนะครับ  ระหว่างที่แกอ้วกโอ้กอ้าก  แกยังเห็นว่ามีคนตายเป็นสิบมายืนล้อมและผลัดกันเข้าออกร่างแกเป็นว่าเล่น 

    หลวงพ่อยิ่งสวดพวกมันยิ่งทำ  ทำนองว่าพอเข้าปุ๊บ ถูกสวดไล่ก็ต้องออก  อีตัวนั้นออกอีตัวนี้เข้า  ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันลุงแดงก็อ้วกอยู่แบบนั้น อ้วกจนไม่มีอะไรจะอ้วก ทีนี้ก็พาลจะขาดใจเอาสิครับเพราะหายใจไม่ทัน  จนหลวงพ่อท่านว่าเดี๋ยวจะให้มันเอาไปคืน  ปล่อยมันไปเถอะ  เท่านั้นเองครับ  ง่าย ๆ ทุกอย่างจบเอาเสียดื้อ ๆ 

    พักใหญ่ ๆ เรียกว่าหลายชั่วโมงเลยล่ะครับกว่าลุงแดงจะฟื้นตัว พอเริ่มมีเรี่ยวแรงเมียแกก็ทั้งด่าทั้งถามว่าไปขโมยของใครเขามา?  แกก็ว่าไม่ได้ขโมย แต่ไปเจอมา  ตอนนี้ซุกอยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า  เมียแกก็กลับบ้านไปเอาครับ  เอามาให้หลวงพ่อที่วัด  ลุงแดงเห็นเข้าตอนแรกก็ยังมิวายเสียดาย  โอดครวญว่าคงรวยแน่แล้วแท้ ๆ แต่กลับถูกเมียด่ากลับเสียลั่นวัดเลยครับว่ามึงจะเอากระดูไปขายให้ใคร  ใครเขาจะรับซื้อ 

    ได้ยินแบบนั้นลุงแดงก็งงล่ะครับ เพราะในไหใบนั้นมันไม่ใช่ทองแต่เป็นกระดูกคนทั้งนั้น  ชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปหมด หลวงพ่อท่านว่าอาจเป็นของพวกคนที่เขาเล่นของแต่โบราณ เวลาฆ่ากันก็ตัดเอาอวัยวะใส่ไหไว้เพื่อกักวิญญาณ  คราวซวยของลุงแดงนั่นล่ะที่ไปเจอเข้าแล้วยังเห็นเป็นสมบัติอีก  ให้เอาไปทิ้งเสียที่เดิมนั่นล่ะ  มีคนเขาเฝ้าอยู่   

    ส่วนเพื่อน ๆ นักหาปลาที่ตามกลับมาเพราะรู้สึกไม่ดี ตอนทักลุงแดงน่ะ เขาคนคนมากมายไม่คุ้นหน้าเดินตามลุงแดงเป็นแถว  แต่ละคนหน้าตาถมึงทึงขึ้งโกรธ คิดว่าไม่ดีแน่แล้วจึงตามมาดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า  แล้วมันก็เป็นจริง ๆ ครับ  ลุงแดงแกว่า แกเข็ดแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่ขอลงน้ำหาปลาอีกเพราะกลัวว่าตัวเองจะเจออะไรแบบนี้อีก  กลัวตัวเองโลภอีก  คราวหน้าอาจตายห่าเป็นผีเข้าก็ได้ใครจะรู้

    จบ. 

     

     

    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น